วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ฟลุต



ประวัติ
ฟลุท เป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีแรก ๆ ของโลก ฟลุทที่เป่าตามแนวนอนพบครั้งแรกที่ประเทศจีนเมื่อ 900 ปีก่อน คศ. ฟลุทได้ไปถึงยุโรปเมื่อราวปี ค.ศ. 1100 ฟลุทในช่วงปี ค.ศ. 1700 นั้นผลิตจากไม้และมีคีย์ 1-4 คีย์ ในศตวรรษที่ 19 จำนวนคีย์ได้เพิ่มเป็น 8 คีย์
ในปี ค.ศ. 1832 ผู้ผลิตเครื่องดนตรีชาวเยอรมันชื่อ Theobald Boehm ได้คิดค้นระบบการวางนิ้วของฟลุทใหม่ และเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ผลิตจากไม้เป็นโลหะ ทำให้ฟลุทสามารถเรียนรู้ได้ง่ายยิ่งขึ้นและเสียงเจิดจ้าขึ้น ระบบเดียวกันนี้ยังถูกนำไปประยุกต์ใช้กับ โอโบ คลาริเน็ต และแซกโซโฟนด้วย
ประเภทของฟลุต
ฟลุตมีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับแหล่งที่มา, โดยพื้นฐานแล้วฟลุตก็คือ ท่อปลายเปิดที่ถูกเป่าให้มีเสียง (เหมือนการเป่าขวด) เมื่อมีความต้องการการเครื่องดนตรีที่มีความสามารถมากขึ้น ได้ทำให้เกิดการพัฒนาจนเกิด ฟลุตตะวันตก ซึ่งมีกลุ่มของแป้นกดที่มีความซับซ้อน
ฟลุตถูกแบ่งเป็นหลายประเภท โดยส่วนใหญ่ผู้เล่นจะเป่าไปที่ขอบของฟลุตเพื่อให้เกิดเสียง อย่างไรก็ตาม ฟลุตบางประเภทอย่างเช่น ขลุ่ย, นกหวีด จะมีท่อนำลมไปยังขอบ ซึ่งทำให้ง่ายต่อการเล่น แต่จะทำให้ไม่สามารถควบคุมลักษณะของเสียงได้เช่นเดียวกับการผิว โดยปรกติแล้ว ขลุ่ยจะไม่ถูกเรียกว่าฟลุต ถึงแม้ว่ากายภาพ วิธีการ และเสียง จะคล้ายกับฟลุตก็ตาม
การแบ่งประเภทอีกแบบหนึ่งก็การแบ่งระหว่าง การเป่าด้านข้าง (Transverse) และการเป่าจากส่วนบน
กลุ่มหลัก ๆ ของฟลุตประกอบไปด้วย ปิคโคโล คอนเสิร์ทฟลุต อัลโตฟลุต เบสฟลุต คอนทราเบสฟลุต ซึ่งแต่ละชนิดจะมีช่วงของเสียงแตกต่างกัน ปิคโคโลจะมีเสียงสูงกว่าฟลุต ไป 1 คู่แปด แต่การเขียวโน้ตจะเขียนเช่นเดียวกับคอนเสิร์ทฟลุต อัลโตฟลุตจะให้เสียง G (ซอล) ซึ่งต่ำกว่า C (โด) กลาง เสียงสูงที่สุดที่อัลโตฟลุตจะเล่นได้คือ G (ซอลสูง) อยู่บนเสี้นที่ 4 เหนือบรรทัด 5 เส้น เบสฟลุตจะให้เสียงต่ำกว่าคอนเสิร์ทฟลุตอยู่ 1 คู่แปด เป็นฟลุตที่ไม่ค่อยถูกนำมาเล่น มีทั้ง ฟลุตเสียงสูง ที่ให้เสียง G (ซอล) ที่ให้เสียงสูงกว่า อัลโตฟลุตอยู่ 1 คู่แปด, โซปราโนฟลุต, เทเนอร์ฟลุต ฯลฯ โดยฟลุตที่มีขนาดแตกต่างจาก ฟลุต และ ปิคโคโล บางครั้งจะถูกเรียกว่า ฮาร์โมนีฟลุต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น